ระบบควบคุมคุณภาพ
เพื่อให้งานแปลเอกสารของลูกค้าออกมามีคุณภาพสูงสุด เราจึงได้คิดค้นระบบการทำงานอย่างเป็นขั้นตอนดังนี้ 1. การคัดเลือกนักแปลที่มีความสามารถ นักแปลทุกคนจะต้องผ่านการตรวจสอบความสามารถทางภาษาและการประเมินคุณสมบัติในเบื้องต้น ก่อนการเริ่มต้นปฏิบัติงานจริง 2. นักแปลทุกคนจะต้องลงนามในเอกสารสัญญาว่าจ้าง โดยหนึ่งในข้อกำหนดการทำงาน คือ นักแปลไม่ได้รับอนุญาตให้นำข้อมูลของลูกค้าไปเปิดเผย ณ ที่แห่งหนึ่งแห่งใด กล่าวคือ ข้อตกลงว่าด้วยเรื่องการรักษาความลับของลูกค้านั่นเอง 3. การเลือกงานที่เหมาะสมกับความสามารถของนักแปล เมื่อบริษัทฯ ได้รับงานแปลของลูกค้าแล้ว ทีมงานจะคัดเลือกนักแปลที่มีความเชี่ยวชาญและความถนัดใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด เพื่อส่งมอบงานแปลที่มีคุณภาพมากที่สุดให้กับลูกค้า 4. การใส่ใจต่อระบบการตรวจสอบ 2 ชั้น ชั้นที่ 1 เมื่อนักแปล แปลเอกสารเสร็จแล้ว เอกสารแปลจะถูกส่งไปยังนักแปลที่มีความสามารถสูงกว่าหรือใกล้เคียงหรือเท่ากัน ในการตรวจสอบ ความถูกต้องของการแปล การใช้คำ สำนวนภาษา ความสละสลวย การสื่อสาร รวมถึงศัพท์เทคนิคเฉพาะต่างๆ เพื่อให้งานลูกค้าออกมามีคุณภาพและความถูกต้องสูงสุด ชั้นที่ 2 เมื่อผ่านการตรวจสอบการแปลแล้ว เอกสารข้างต้นจะถูกส่งไปยังฝ่ายพิสูจน์อักษรสำหรับการตรวจสอบ ความถูกต้องของการสะกดคำ และการเรียบเรียงประโยค เพื่อใหัลูกค้าได้รับงานที่อ่านแล้วเข้าใจได้ทันที ไม่เกิดความสับสน 5. การทำงานของนักแปลร่วมกับทีมที่ปรึกษา ชิ้นงานบางชนิด นอกเหนือจากต้องการระบบตรวจสอบ 2 ชั้นแล้ว ยังต้องการทีมที่ปรึกษาเฉพาะด้านด้วย เนื่องเพราะ มีเนื้อหาเกี่ยวโยงหลากหลายสาขาวิชาและหลายภาษา เช่น ความจำเป็นที่ต้องมีการถอดเสียงภาษาอื่นๆ ที่อยู่ในต้นฉบับแปล อันได้แก่ ชื่อสถานที่และชื่อเฉพาะต่างๆ รวมถึงการเข้าใจความหมายของคำบางคำอย่างลึกซึ้งมากขึ้น การทำเช่นนี้ จะทำให้งานแปลออกมามีคุณภาพสูงมาก 6. การทำงานร่วมกันกับลูกค้า นอกเหนือ ระบบคุณภาพและการรักษาความลับข้างต้นแล้ว เพื่อให้งานของลูกค้าออกมาตรงใจ ตรงความต้องการของลูกค้าสูงสุด บริษัทฯ ของเราจะทำงานร่วมกันกับลูกค้าเสมอ ที่เป็นเช่นนี้ เนื่องเพราะว่า ในบางครั้ง ศัพท์เฉพาะหรือศัพท์เทคนิคบางประการ ใช้เฉพาะกับบริษัทฯ ของลูกค้าเท่านั้น ซึ่งศัพท์เหล่านี้ เป็นไปได้ยากที่นักแปลของเราจะทราบ หากยังไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน 7. การจัดเรียงเอกสาร สำหรับบางชิ้นงาน ลูกค้ามีความต้องการให้บริษัท จัดเรียงเอกสารให้อยู่ในรูปแบบต่างๆ เพื่อความสะดวกในการนำไปใช้งานของลูกค้า เรายินดีรับใช้ทุกประการ ลูกค้าสามารถแจ้งได้ ซึ่งบริการนี้ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 8. การรับประกันเวลา ความตรงต่อเวลา เป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุดเทียบเท่ากับ คุณภาพงาน เนื่องเพราะว่า การไม่ตรงต่อเวลาอาจสร้างความเสียหายให้กับลูกค้าอย่างใหญ่หลวง กล่าวได้ว่า ถึงแม้จะแปลงานออกมาอย่างดีที่สุด แต่คงไม่มีความหมาย หากงานนั้นไม่สามารถนำไปใช้ได้เนื่องจากเลยกำหนดเวลาที่จะต้องใช้ เพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดต่อลูกค้าว่า เรา GTM ยึดมั่นอย่างจริงจังต่อ การส่งมอบงานอย่างตรงต่อเวลา บริษัทจึงได้ตั้งระบบ "พันธะสัญญารับประกันเวลา" ขึ้น ด้วยระบบนี้ หากบริษัทฯ ไม่สามารถส่งมอบงานตามกำหนดเวลาได้ บริษัทฯ ยินดีมอบส่วนลดทันที 35% จากยอดเต็มของงานชิ้นดังกล่าว และยินดีลดราคาให้ 35% สำหรับการใช้บริการครั้งถัดไป รวมมูลค่าส่วนลดต่อการผิดสัญญานี้คือ 70% 9. การเก็บรักษางานของลูกค้า งานของลูกค้าจะถูกเก็บที่บริษัทฯ ของเราตลอดไปทั้งนี้เพื่อที่ว่า หากลูกค้ากลับมาใช้บริการอีกครั้ง จะทำให้เราสามารถเรียกข้อมูลที่เคยทำงานให้กับลูกค้าแล้วขึ้นมาศึกษาเพิ่มเติม เพื่อให้งานของลูกค้ามีคุณภาพสูงสุด รวมถึงมีความต่อเนื่อง
หมายเหตุ: ชิ้นงานใดที่ลูกค้าต้องการให้เข้าระบบมาตรฐานคุณภาพทั้ง 9 ข้อ อาจส่งผลให้ราคางานสูงขึ้นตามลำดับ, และหากลูกค้าต้องการเข้าระบบคุณภาพข้างต้นโปรดแจ้งให้ทางเราทราบ เพื่อการร่างสัญญาว่าจ้างร่วมกัน |